ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ ตัวช่วยอย่างหนึ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาใบหน้าที่ดูโทรม หมองคล้ำ ไม่สดใส อันเกิดจากปัญหาการมีริ้วรอยบริเวณใต้ตา ใต้ตาลึก ใต้ตาคล้ำ สามารถช่วยให้ใบหน้ากลับมามีชีวิตชีวา สดใสได้อีกครั้งหนึ่ง โดยไม่จำเป็นต้องรอนาน สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที จึงเป็นหัตถการที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในทุกวันนี้

(การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถแก้ไขปัญหาริ้วรอยใต้ตา ใต้ตาคล้ำ คืนความสดใสให้กับเจ้าของใบหน้า)
สำหรับคำถามที่ว่า ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา และข้อปฏิบัติตัวที่ควรทราบก่อนทำมีอะไรบ้างนั้น เราได้รวบรวมคำตอบจากคุณหมอที่จะมาช่วยไขข้อข้องใจไว้ในบทความนี้แล้วครับ ซึ่งจะช่วยลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ช่วยส่งเสริมผลการรักษาให้ดีมากยิ่งขึ้น รวมถึงช่วยให้คนไข้ดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมครับ
ขอบคุณข้อมูล: รีวิวฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มใต้ตากับคุณนิโคลที่ V Square Clinic จาก Youtube Channel: V Square Clinic
ข้อห้ามที่ควรระมัดระวัง หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีอะไรบ้าง?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาหลังจากทำเสร็จแล้วทันที แพทย์จะช่วยติดพลาสเตอร์ยาให้ตามรอยเข็มจุดต่าง ๆ บนใบหน้าและหลังจากเวลาผ่านไปจนครบ 1 ชั่วโมงเราจึงสามารถแกะพลาสเตอร์ออกได้ครับ อาการที่อาจเกิดขึ้นได้หลังฉีด ได้แก่ อาการเขียวช้ำ บวมแดง รวมทั้งอาการคันในจุดที่ฉีด ล้วนเป็นอาการที่คนไข้ไม่จำเป็นต้องกังวลใจไปเนื่องจากภายในเวลาประมาณ 2-3 วันอาการต่าง ๆ พวกนี้ก็จะสามารถดีขึ้นได้เองตามลำดับ
แพทย์ได้ให้คำแนะนำว่า ควรระมัดระวัง ไม่ไปแกะ เกา นวด กด หรือแตะตามบริเวณต่าง ๆ ที่ฉีดไป เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดอาการติดเชื้อหรืออักเสบขึ้นได้หลังฉีด filler
รวมทั้งหลังจากครบระยะเวลา 3 วันไปแล้ว ถ้าอาการบวมแดงยังไม่ทุเลาลงเลย แนะนำว่าควรกลับไปที่คลินิกเพื่อให้แพทย์ช่วยตรวจเช็คอาการโดยละเอียดและรับยากลับไปทานเพิ่มเติมด้วยครับ
คนไข้มักเกิดความกังวลใจหรือข้อสงสัย เกี่ยวกับข้อห้าม-ข้อปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเรียบร้อยแล้ว ตัวอย่างเช่น ล้างหน้าได้ไหม ทาครีมได้ไหม หรือสามารถแต่งหน้าได้เลยหรือไม่ วันนี้เรามีสรุปเป็นข้อ ๆ จากคำอธิบายของแพทย์มาฝากแก่ผู้อ่านทุกท่านครับ

· เมื่อฉีดฟิลเลอร์เสร็จแล้ว สามารถแต่งหน้าออกไปข้างนอกได้ตามปรกติ
· การล้างหน้าโดยใช้สบู่อ่อน ๆ สามารถทำได้ครับ แต่ควรล้างหน้าอย่างระมัดระวัง รวมทั้งไม่ควรให้ใบหน้าโดนน้ำเกินกว่า 15 นาทีโดยประมาณ
· งดเว้นการถู ขัดและนวดหน้า ในระหว่างทำการล้างหน้า
· หลังฉีด 1 คืนแรก ควรหลีกเลี่ยงการทาครีมบริเวณรอยเข็มที่เพิ่งฉีดฟิลเลอร์มา
· ช่วงเวลา 2 อาทิตย์แรกหลังฉีด คนไข้ควรหลีกเลี่ยงการทำทรีทเม้นต์ หรือซาวน่าออกไปก่อน
· หลีกเลี่ยงการออกแดดจัด เพื่อช่วยให้อาการบวมทุเลาลงได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังควรอยู่แต่ในบริเวณที่มีอากาศเย็น
· หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 1 คืนแรก ในกรณีที่คนไข้บางเคสมีอาการปวดระบมตามรอยเข็ม ทุก ๆ 4 ชั่วโมงสามารถรับประทานยาแก้ปวด paracetamol (พาราเซตามอล) ที่ทางคลินิกให้ไปได้

ในช่วงระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์แรกหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรดูแลตัวเองด้วยในเรื่องของการกินอาหาร โดยอาหารต้องห้ามที่คนไข้ควรงดไปก่อน ได้แก่
· หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มทุกประเภทที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
· หลีกเลี่ยงการทานอาหารจำพวกที่ต้องนั่งกินหน้าเตาร้อน ๆ เช่น หมูกระทะ ปิ้งย่าง และชาบู
· ไม่ควรทานอาหารประเภทของหมัก ของดอง รวมทั้งอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ
· ไม่ควรทานอาหารรสจัดทุกชนิด ทั้งรสเค็มจัด เผ็ดจัด และหวานจัด
ข้อควรปฏิบัติที่สำคัญหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีอะไรบ้าง?
· ระวังไม่นอนกดทับใบหน้า ในช่วง 2-3 คืนแรกหลังทำ แนะนำให้นอนโดยใช้วิธีหนุนหมอนอย่างน้อย 2 ใบที่ศีรษะ เพื่อให้หัวอยู่สูงกว่าหน้าอก
· ด้วยสาเหตุที่มีสารหลายชนิดที่ออกฤทธิ์ขยายหลอดเลือดในบุหรี่ จึงควรงดการสูบบุหรี่เพื่อป้องกันไม่ให้ผลลัพธ์อยู่ได้สั้นลงรวมถึงยุบบวมได้ช้าลงหลังจากฉีดฟิลเลอร์
· ควรกินยาอย่างครบถ้วนตามที่แพทย์สั่งจ่ายให้หลังทำ เพื่อช่วยลดอาการบวมและป้องกันการติดเชื้อ
· เนื่องจากฟิลเลอร์เป็นสารที่อุ้มน้ำ คนไข้ควรดื่มน้ำมาก ๆ ในแต่ละวัน นั่นคือ ควรดื่มน้ำวันละประมาณ 1.5-2 ลิตร เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น รวมทั้งช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูได้รูปอีกด้วย
· เพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์เกิดการเคลื่อนผิดตำแหน่งได้ในภายหลัง ในระยะเวลา 3 วันแรกหลังฉีดเสร็จคนไข้จึงไม่ควรขยับใบหน้าเยอะ
· ดูแลตัวเองให้มากเป็นพิเศษ ระวังไม่ออกไปตากแดดจัด ๆ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการไปเจอกับอากาศร้อน ๆ

เพื่อช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตา และใต้ตาดำคล้ำ เราควรฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาบ่อยแค่ไหน?
หากเป็นฟิลเลอร์แท้จะไม่มีสารตกค้างใด ๆ เนื่องจากสามารถสลายไปเองได้หมดทั้ง 100% ซึ่งรุ่นและยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่ใช้จะเป็นตัวบ่งบอกว่าผลลัพธ์ที่ได้หลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะสามารถคงอยู่ได้นานเพียงไร โดยปรกติแล้ว filler จะคงอยู่ได้นานประมาณ 1 ปี – 1 ปีครึ่ง และคนไข้สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้อีก หากต้องการรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้ยาวนานยิ่งขึ้น

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีหลักการคือช่วยขจัดปัญหาใต้ตาดำคล้ำ ช่วยชะลอวัยให้ใบหน้าดูห่างไกลจากริ้วรอยมากที่สุด โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตาที่ส่วนมากจะเกิดจากวัยที่มากขึ้นจนทำให้โครงสร้างกระดูกเกิดการยุบตัวลง ดังนั้น เพื่อความคุ้มค่าและเห็นผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจอย่างสูงสุด เราจึงควรทำความเข้าใจรวมถึงปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เกี่ยวกับข้อปฏิบัติตัว-ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างเคร่งครัดครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.vsquareclinic.com/tips/do-dont-under-eyes-filler/