ปัจจุบันนี้การศัลยกรรมในประเทศไทยถือเป็นเรื่องที่มีการเปิดเผยกันมากขึ้น และหากใครจะเข้าวงการนี้ โดยมากจะเริ่มต้นที่ “การเสริมจมูก” ด้วยกันทั้งนั้น เนื่องจากเป็นการศัลยกรรมที่ใช้เวลาในการทำและการพักฟื้นที่ไม่นาน เมื่อเทียบกับการทำศัลยกรรมประเภทอื่น ๆ ดังนั้น เราจึงได้รวบรวมทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับการเสริมจมูกมาฝากกัน ใครอยากมีจมูกสวย ๆ ต้องอ่าน

1. การเสริมจมูก คืออะไร
การเสริมจมูก หรือ การศัลยกรรมจมูก (Rhinoplasty) คือการผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนรูปทรงของจมูก โดยอาจจะมีจุดประสงค์เพื่อปรับรูปร่างลักษณะของจมูกเสียใหม่ หรือช่วยแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระบบการหายใจ ที่อาจจะเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ รวมถึงความบกพร่องและพิการแต่กำเนิด นอกจากนี้ ยังทำเพื่อเสริมบุคลิกภาพ สร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่ทำมากขึ้น

2. ปัญหาของผู้ที่ต้องการเสริมจมูก
อย่างที่กล่าวไปในข้างต้นว่าเดี๋ยวนี้ประเทศไทยเปิดกว้างเรื่องศัลยกรรมมากขึ้นกว่าสมัยก่อน แล้วเคยสงสัยกันไหมว่าอะไรเป็นสาเหตุให้ใครหลายคนอยากที่จะเสริมจมูก พวกเขามีปัญหาอะไรกัน ไปดูกันเลย
- จมูกบานออกข้าง มีรูจมูกที่กว้าง ทำให้ขาดความมั่นใจ รู้สึกไม่สวย เลยอยากจะเปลี่ยนทรงจมูกให้แคบและเรียวขึ้น ลดขนาดของรูจมูกลง
- จมูกงุ้มเหมือนแม่มด มีฮัมพ์ที่จมูกเป็นคลื่น ทำให้หน้าดูแก่เกินอายุ ทั้งที่อายุยังน้อย ถ้าได้เสริมจมูก จะได้มีใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์และอ่อนหวานขึ้น
- ดั้งไม่มี โดนล้อ โดน bully นอกจากจะเสียความมั่นใจในการถ่ายรูปแล้ว ยังไม่กล้าที่จะเข้าสังคม คนกลุ่มนี้จึงอยากมีดั้งที่โด่ง พุ่ง สโลปอย่างเป็นธรรมชาติ ดูเหมือนไม่ได้ทำ
- จมูกสั้น เหินและมีความเชิดมากเกินไป ทำให้เวลาถ่ายรูปจะสังเกตเห็นรูจมูกได้ชัด เลยต้องการที่จะอยากมีจมูกที่ยาว สวยได้รูป เหมาะสมกับใบหน้า

3. การเสริมจมูกมีกี่แบบ อะไรบ้าง
สำหรับการเสริมจมูก เราสามารถแบ่งออกได้ทั้งหมด 6 แบบ ดังนี้
- การเสริมจมูกแบบโอเพ่น (Open Rhinoplasty / Open Reconstruction) เป็นการเสริมจมูกแบบที่นิยมทำกันทั่วโลก ด้วยการใช้เทคนิคผ่าตัดเปิดแผลในรูจมูกทั้งสองข้างและบริเวณกึ่งกลางจมูกเพื่อสามารถมองเห็นโครงสร้างภายในได้อย่างชัดเจน ซึ่งจะเห็นเป็นเพียงแผลเล็ก ๆ เท่านั้นและยังสามารถทำให้ได้รูปทรงที่ต้องการ ซึ่งหลังผ่าตัดแทบจะไม่ทิ้งรอยแผลเป็นไว้เลย
- การเสริมจมูกแบบปิด (Closed Rhinoplasty) เป็นเทคนิคการเสริมจมูกที่เหมาะสำหรับการเติมสันจมูกหรือปลายจมูก ใช้เวลาในการผ่าตัดไม่นาน รวมถึงระยะเวลาในการพักฟื้นก็ไม่นานเช่นกัน ราคาไม่แพง เจ็บตัวน้อย และยังสามารถนำกระดูกอ่อนหลังใบหูหรือเนื้อเยื่อไขมันมารองที่ปลายจมูกได้อีกด้วย
- การเสริมจมูกด้วยกระดูกอ่อนหลังใบหู เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่แพทย์มักเลือกใช้ในการเสริมจมูก ซึ่งจะใช้กระดูกบริเวณหลังใบหูที่มีลักษณะเป็นแอ่งโค้ง ซึ่งเวลาทำแพทย์จะเปิดแผลและตัดกระดูกออกมาบางส่วน โดยเฉพาะในกรณีที่คนที่ทำมีปลายจมูกที่บางมาก หากใช้ซิลิโคนอย่างเดียวเพื่อเพิ่มปลายจมูก อาจเสี่ยงที่จะทะลุได้ จึงต้องใช้กระดูกอ่อนหลังใบหูมาช่วยเสริมรองตำแหน่งปลายจมูกเอาไว้
- การเสริมจมูกด้วยเนื้อเยื่อเทียม เนื้อเยื่อเทียมคือวัสดุที่สังเคราะห์ขึ้นมา เป็นแผ่น ๆ มีความนิ่มคล้ายกับฟองน้ำสามารถนำมาใช้เสริมเพื่อรองปลายเพื่อลดความเสี่ยงปลายจมูกทะลุ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการแก้จมูกจากปัญหาผิวหนังบาง ใกล้ทะลุ หรือคนที่เสริมใหม่เเละต้องการให้มีปลายที่ยาวขึ้น แต่มีเนื้อน้อย
- การเสริมจมูกด้วยการตัดปีกจมูก (Alar Reduction) การตัดปีกจมูกจะช่วยให้ใบหน้ามีความสมดุลและปรับเปลี่ยนให้ใบหน้าดูสวยหวาน ที่จากเดิมไม่สมส่วน ซึ่งการตัดปีกจมูกนั้นจะเหมาะกับคนที่มีปัญหาปีกจมูกใหญ่ ปีกจมูกหนา ปีกจมูกบาน ซึ่งวิธีการทำจะเริ่มจาก แพทย์จะวิเคราะห์ทรงปีกจมูกเดิม จากนั้นดีไซน์ทรงใหม่ขึ้นมา และเลือกเทคนิคที่เหมาะสม จากนั้นจะตัดปีกจมูกใช้อยู่ 2 เทคนิค ได้แก่ 1) เทคนิคการตัดผิวหนังตรงปีกจมูกออก 2) เทคนิคการตัดผิวหนัง+เย็บฐานจมูกให้แคบลง (วิธีนี้จะทำให้จมูกดูสวยเป็นธรรมชาติ)
- การเสริมจมูกด้วยการตอกฐานจมูก (Nose osteotomy) เป็นเทคนิคในการบีบหรือทุบกระดูกแกนจมูกที่กว้างและโก่งเกินไปให้มีขนาดเล็กลง ซึ่งวิธีการที่นิยมใช้นั้นสามารถทำได้ทั้งการเสริมจมูกแบบปิดและแบบโอเพ่น เนื่องจากสามารถเปิดแผลขนาดเล็กด้านข้างของสันจมูก โดยการตอกฐานจมูกจะทำให้จมูกดูเรียวขึ้น ยิ่งตอกหลายแนว ตอกเยอะ ก็จะยิ่งเรียวมาก

4. ทรงจมูกยอดฮิตที่คนไทยนิยมทำกัน
หากใครสนใจจะทำจมูก คงจะเห็นได้ว่าเดี๋ยวนี้มีทรงจมูกออกมาให้เลือกกันเยอะแยะไปหมด ซึ่งหนึ่งในนั้นที่เป็นที่นิยมทำกันมาก นั่นคือ “ทรงสโลป ปลายพุ่ง” ซึ่งถือว่าเป็นทรงที่เหมาะกับสาวเอเชียที่สุด โดยทรงนี้จะเหมาะกับใบหน้าทุกประเภท เพราะจะไม่ทำให้หน้าบาน หน้าแบน หรือไปเน้นสัดส่วนอื่น ๆ บนใบหน้าที่จะทำให้หน้าไม่สมส่วน เหมาะสำหรับคนที่ดั้งไม่โด่ง มีฮัมพ์ จมูกใหญ่ จมูกเอียง จมูกสั้น ฯลฯ พูดง่าย ๆ ทรงนี้เกิดมาเพื่อทุกคนจริง ๆ

5. การเสริมจมูกในผู้ชายกับผู้หญิงต่างกันหรือไม่
สิ่งที่ทำให้การเสริมจมูกของผู้ชายและผู้หญิงมีความต่างอย่างชัดเจนที่สุด นั่นคือ ช่วงสันของจมูกจะจะสูงรับกับช่วงหว่างคิ้ว โดยทรงจมูกตั้งแต่ช่วงกลางถึงปลายจะมีความเรียว คม และชัดเจน ทำให้จมูกดูมีมิติที่โดดเด่น และยังปรับให้ปลายจมูกสูงรับกับกับหน้า ส่งผลให้ใบหน้าดูเล็กลง

6. การเสริมจมูกมีราคาเท่าไหร่
ราคาของการเสริมจมูกจะขึ้นอยู่กับเกรดของวัสดุที่ใช้ทำ โดยทั่วไปเริ่มต้นที่ประมาณ 15.9k – 100k บาท

7. การเตรียมตัวก่อนการเสริมจมูก
หากใครที่ตัดสินใจที่จะเสริมจมูกแล้วล่ะก็ ควรต้องหยุดอ่านหัวข้อนี้ก่อน เพื่อให้เข้าใจและเตรียมร่างกายให้ถูกต้องก่อนการเสริมจมูก โดยปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้
- แจ้งรายละเอียดต่าง ๆ เช่น โรคประจำตัว ยาประจำตัว ประวัติการแพ้ยา ประวัติการผ่าตัด ให้แพทย์ทราบก่อนการผ่าตัด
- ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนการผ่าตัด หากคุณทานยาในกลุ่มของแอสไพริน เช่น ยาแก้ปวด NSAID หรือยาในกลุ่มละลายลิ่มเลือดและยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
- งดทานวิตามินและอาหารเสริมทุกชนิด เช่น วิตามินอี ใบแปะก๊วย น้ำมันปลา อย่างน้อย 1 เดือน
- ควรสระผมให้เรียบร้อยก่อนการผ่าตัดและงดการแต่งหน้า รวมถึงงดการใส่คอนแทคเลนส์ในวันผ่าตัด

8. การดูแลหลังการผ่าตัดเสริมจมูก
การดูแลหลังการผ่าตัดก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญเหมือนกัน หากเราดูแลไม่ดี ก็จะเสี่ยงที่จะติดเชื้อ และนำมาซึ่งอาการจมูกเน่า และต้องเสียเงินและเวลาเพื่อกลับมาแก้ไขใหม่ ดังนั้น การดูแลตัวเองทำได้ดังนี้
- ประคบเย็น 3 วันแรก หลังจากนั้นประคบร้อน 3 วันหลัง เพื่อลดอาการบวม
- หลังผ่าตัด 24 – 48 ชั่วโมง อาจมีอาการปวดศีรษะ จมูกหรือบริเวณโครงสร้างใบหน้า ให้ทานยาแก้ปวดและยาแก้อักเสบตามที่แพทย์สั่ง
- ไม่ควรกินอาหารที่มีรสจัด เผ็ดจัด เค็มจัด เพราะอาจจะทำให้น้ำมูกไหลได้ รวมถึงของหมักดอง ที่เสี่ยงต่อการที่จมูกสามารถติดเชื้อได้ง่าย ไม่ควรกินไข่ จะทำให้แผลหายช้า รวมถึงเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ แต่ทั้งนี้ควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะในหมวดหมู่ของโปรตีน จะไปช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่ถูกทำลายได้
- นอนหนุนหมอนให้สูงขึ้น เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 2 อาทิตย์
- หมั่นทำความสะอาดแผล เช้า – เย็น และห้ามให้แผลถูกน้ำ เพราะอาจเกิดการติดเชื้อได้
- ในช่วง 1 – 3 อาทิตย์แรก ควรหลีกเลี่ยงการสั่งน้ำมูก ขยี้จมูก ก้มหน้านาน ๆ และการยกของหนัก

8. ทำจมูกที่ไหนดี
ในการเลือกคลินิกสำหรับเสริมจมูกควรพิจารณาจากสองหลักใหญ่ ๆ นั่นคือ สถานประกอบการจะต้องมีใบอนุญาตประกอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และแพทย์ที่ทำการศัลยกรรมจะต้องมีใบประกอบวิชาชีพอย่างถูกต้อง ซึ่งเราได้ยกคลินิกที่คนนิยมไปใช้บริการกันมากไว้ดังนี้
- WE Clinic มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่สามารถแก้ไขเคสยาก ๆ ได้ ทรงที่ออกมา มีความสวย ดูโดดเด่น ช่องทางในการติดต่อ FB: WE Clinic โทร. 090-320-0666
- Sowon Clinic คุณหมอกอล์ฟ ถูกแนะนำจากหลาย ๆ คนมีฝีมือเยี่ยม งานสวย เป๊ะมาก ช่องทางในการติดต่อ : FB Sowon Clinic, โทร. 097-207-3296
- Showtime Clinic คุณหมอเชาว์ ฝีมือดีที่ทำให้ทรงจมูกออกมาสวยได้รูปและดูเป็นธรรมชาติ ช่องทางในการติดต่อ : FB showtime Clinic, โทร. 092-739-2777

FAQ คำถามที่พบบ่อย
- Q: การทำจมูกเจ็บไหม?
A: ตอนระหว่างกำลังทำจะไม่รู้สึกเจ็บเนื่องจากแพทย์จะฉีดยาชาหรือดมยาสลบ แต่เมื่อยาหมดฤทธิ์ ก็จะมีอาการปวดบ้างเล็กน้อย แต่ไม่นานก็จะดีขึ้น
- Q: แผลจากการเสริมจมูก ใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงจะหายบวมและแผลหายสนิท?
A: สำหรับอาการบวมจะใช้เวลา 1 – 2 สัปดาห์จึงจะหายบวม และแผลจะหายสนิทภายใน 1 เดือน
- Q: ถ้าหากเป็นคนเนื้อจมูกน้อย สามารถเสริมจมูกได้ไหม?
A: สามารถทำได้ คนที่เนื้อจมูกน้อยคือคนที่มีผิวหนังบาง ซึ่งวิธีที่เหมาะสมที่สุดคือ การเสริมจมูกแบบโอเพ่น ทำได้โดยการเปิดแผลตรงกลางจมูกให้สามารถเห็นโครงสร้างภายในได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งใช้เทคนิคยืดผนังกั้นจมูกเพื่อทำให้จมูกดูยาวขึ้น
- Q: เสริมจมูกแล้วแต่งหน้าได้ไหม?
A: สามารถแต่งหน้าได้ ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- Q: ควรจัดฟันก่อนหรือเสริมจมูกก่อนดีกว่ากัน?
A: ถ้ามันมีปัญหาค่อนข้างเยอะ ต้องถอนเยอะ ดึงฟันเยอะ หรืออาจจะไปถึงขั้นตัดกราม แนะนำให้ทำก่อนการเสริมจมูก แต่ถ้าฟันไม่ได้เกมาก ไม่ได้ถอน หรือดึงน้อย สามารถเสริมจมูกก่อนได้ แต่ทั้งนี้ ต้องแยกเป็นกรณีไป
จบลงไปแล้วกับการไขทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับการเสริมจมูก เชื่อแน่ว่าหลายคนคงพอจ ตัดสินใจได้แล้วว่าจะเลือกเสริมจมูกหรือไม่ และจะเสริมแบบใดดี แต่สิ่งสำคัญที่สุดในการเสริมจมูกคือ การเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญที่น่าเชื่อถือและปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เท่านี้ก็สามารถสวยกันได้อย่างปลอดภัยแล้ว