สุรชัย สมบัติเจริญ ศัลยกรรม
ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีก่อนตอนที่มีข่าวสั่นวงการศัลยกรรมเมืองไทย คือข่าวการตัดสินใจผ่าตัดศัลยกรรมของนักร้องลูกทุ่งรูปหล่อสุรชัย สมบัติเจริญที่ในขณะนั้นน้าแอ๊ดมีอายุ 59 ปีบริบูรณ์ จนขณะนี้ผ่านมา 2 ปี(พ.ศ.2561) เมื่อเราลองเข้าไปดูในเฟซบุ๊คปัจจุบันของน้าแอ๊ด ขอบอกคำเดียวว่า “ตะลึง” นี่หรือผู้ชายที่มีอายุเท่ากับพ่อของเรา
สุรชัย สมบัติเจริญในยุค 4.0 หล่อและหนุ่มมาก ก่อนหน้านี้ที่ยังไม่มีการทำศัลยกรรมปัญหาของน้าแอ๊ดคือความหย่อนคล้อยของใบหน้าแทบทุกส่วน และที่ปัญหาร่องลึกบนหน้า เพราะด้วยอาชีพนักแสดง ทำให้น้าแอ๊ดพักผ่อนน้อยมาก และไม่มีเวลาออกกำลังกาย สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงบนผิวหน้าและอวัยวะส่วนอื่นๆของร่างกาย ที่จะแสดงออกมาให้เห็นว่านี่คือความเสื่อมสภาพของผิวหนังและร่างกายอย่างแท้จริง
ด้วยอาชีพหลักที่น้าแอ๊ดใช้หาเลี้ยงครอบครัว คือการแสดง ทั้งหน้าจอโทรทัศน์และบนเวที ทำให้น้าแอ๊ดมีความจำเป็นต้องดูแลรักษาตัวเองให้มากกว่าคนที่ทำอาชีพอื่นๆ เพราะสินค้าที่ขายคือความบันเทิง ความสวยงามและความสมบูรณ์แบบ ทั้งเรื่องของคุณภาพการแสดง แสง สี เสียงรวมถึงหน้าตาและบุคลิกของคนแสดง เพื่อสร้างความประทับใจและความสุขให้กับคนดูได้มากที่สุด เพราะฉะนั้นทุกอย่างที่สะท้อนภาพออกมาต้องเป๊ะเท่านั้น จึงจะทำให้คนดูประทับใจได้ นี่คือเหตุผลหลักที่คนบันเทิงจำเป็นต้องทำศัลยกรรม

การศัลยกรรมตามแผนการรักษาของสุรชัย สมบัติเจริญคือการทำเฟซ-ออฟ (ตามคำนิยามของดร.เซปิง ) ซึ่งทางการแพทย์วิธีการแบบนี้เรียกว่าการทำเฟซลิฟท์(Face lift)หรือ rhytidectomy ซึ่งหมายถึงการกำจัดผิวหน้าส่วนเกิน อาจจะประกอบไปด้วยการผ่าตัดเพื่อดึงและยกผิวหนังบางส่วน ร่วมกับการดูดไขมันในส่วนที่ต้องการแก้ไข เพื่อให้ได้รูปหน้าที่สวยงาม และจัดการกับส่วนของไขมันใต้ชั้นผิวหนังในกรณีของน้าแอ๊ดแผนการทำประกอบด้วย การผ่าตัดเพื่อดึงคิ้วขึ้นทั้งหมดผ่าตัดเพื่อเอาพังผืดและกล้ามเนื้อส่วนตรงกลางระหว่างคิ้ว ซึ่งเป็นการจัดการกับร่องลึกระหว่างคิ้วให้หายไปแบบถาวร ต่อด้วยการดึงเส้นบริเวณหน้าผากการทำตาบน-ล่างการยกหางคิ้วและหางตาจากนั้นก็ทำการดึงส่วนของแก้มคางคอดูดไขมันบริเวณใต้คาง และต่อด้วยการปลูกผมใหม่ระยะเวลาในการทำทั้งหมดประมาณ 6-7 ชั่วโมง การทำเฟซลิฟท์ของน้าแอ๊ดครั้งนี้คุณหมอการันตีว่า ทำเพียงครั้งเดียวจะสามารถหล่อตลอดชีวิตไปเลย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง ถ้าไม่ปล่อยให้อ้วนรูปหน้าก็จะไม่เปลี่ยนแปลง และข้อดีของการทำแบบนี้คือ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนความเต่งตึงของผิวหนังก็จะยังคงอยู่แบบนี้
ขั้นตอนคร่าวๆ แพทย์จะทำการยกชั้นของผิวหนังออกจากส่วนของกล้ามเนื้อและชั้นไขมัน เพียงเบาๆ จากนั้นจะทำการดึงชั้นผิวหนังให้ไปในทิศทางที่ต้องการ ซึ่งส่วนใหญ่จะดึงให้สูงขึ้น บางส่วนจะดึงไปด้านหลัง(บริเวณหน้าหู) บางส่วนต้องดึงลง(ใต้คาง) และถ้ามีผิวหนังส่วนเกินก็จะต้องตัดออก อาจมีการกระชับเนื้อเยื่อส่วนอื่นๆบนใบหน้า และลำคอ เพื่อให้สอดรับกันพอดี เมื่อเสร็จก็จะทำการเย็บปิดแผล ซึ่งต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ และใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อไม่ให้มองเห็นรอยผ่าตัดและรอยเย็บใดใด
หลังทำเสร็จจะไม่เห็นร่องรอยการทำ และไม่จำเป็นต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาล สามารถกลับบ้านได้เลย หลังจากนั้น ร่างกายก็จะเริ่มปรับสภาพและเชื่อมต่อรอยผ่าตัดกำจัดของเสียที่เกิดจากการผ่าตัดด้วยกระบวนการตามปกติของร่างกาย การกระทำทั้งหมดนี้ สามารถทำให้ผู้เข้ารับการผ่าตัด มีใบหน้าที่ดูเด็กขึ้น 15-20 ปีเลยทีเดียว

วิธีการทำเฟซลิฟท์นี้ จะช่วยแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยของผิวหนังบริเวณ หน้าผาก, แก้ม, คาง, และคอ ซึ่งปัญหาเหล่านี้มักจะพบในคนอายุ 50 – 60 ปีขึ้นไป แต่ก็อาจจะพบในคนที่มีอายุน้อยกว่านี้ได้ ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง การใช้ชีวิตประจำวัน และสภาพร่างกายของแต่ละคน ถ้าในรายที่ปัญหาของการมีไขมันสะสมในบริเวณแก้มและบริเวณใต้คาง ก็อาจจะต้องใช้วิธีการผ่าตัดดึงหน้าร่วมกับการดูดไขมันในส่วนที่เป็นปัญหาควบคู่กัน
ก่อนการผ่าตัด แพทย์จะต้องตรวจสภาพร่างกายของคนไข้ เพื่อประเมินสภาพความพร้อมและวางแผนการผ่าตัด ซึ่งคนไข้จะมั่นใจได้ว่า ทุกขั้นตอนการทำจะปลอดภัย และอยู่บนพื้นฐานของการรักษาที่ดีที่สุด ปลอดภัยไร้ผลข้างเคียง
สิ่งที่เราเห็นบนใบหน้าของน้าแอ๊ด สุรชัย สมบัติเจริญ ทุกวันนี้เป็นเครื่องการันตีได้อย่างยอดเยี่ยมว่า การทำศัลยกรรมใบหน้า ให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจในระดับดีมาก ซึ่งถ้าจะบอกว่ามันเปลี่ยนชีวิตได้ไหม สำหรับส่วนตัวผู้เขียนถือว่า ทำได้และทำได้อย่างยอดเยี่ยมทีเดียว เพราะผลของการทำศัลยกรรม มันไม่ได้ให้ความรู้สึกดีแค่เฉพาะบริเวณผิวหน้าที่ทำ แต่มันส่งผลถึง ความรู้สึกที่แสนวิเศษ ความรู้สึกรักและมั่นใจในตัวเองมากขึ้น โดยเฉพาะคนที่ยังต้องใช้รูปร่างหน้าตาในการทำมาหากินเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง คนเหล่านี้จะรู้ดีว่าเพียงแค่สภาพร่างกายที่ดูไม่พร้อมอาจส่งผลให้รายได้ที่เคยใช้เพื่อการดำรงชีวิต มันหายไปและอาจส่งผลมาถึงคนที่อยู่ข้างหลังที่ยังต้องพึ่งเงินจากรายได้ส่วนนี้ เพื่อสร้างอนาคตต่อไป และนั่นคงเป็นเหตุผลเดียวกันที่มากพอจะให้ สุรชัย สมบัติเจริญ ลุกขึ้นมาทำศัลยกรรม จนหล่อโลกตะลึงแบบนี้